เทรนด์ชุดฮู้ดสไตล์สตรีทแวร์สำหรับผู้ชายในช่วงห้าปีที่ผ่านมา

สตรีทแวร์กลายเป็นพลังสำคัญในแฟชั่นของผู้ชาย ผสานความสบายและสไตล์เข้ากับเครื่องแต่งกายในชีวิตประจำวัน ในบรรดาสินค้าหลัก ชุดฮู้ด ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างเสื้อฮู้ดและกางเกงวอร์มหรือกางเกงวอร์มเข้าชุดกัน ได้กลายเป็นกระแสหลัก ในช่วงห้าปีที่ผ่านมา เทรนด์นี้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างก้าวกระโดด อันเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงของความต้องการของผู้บริโภค นวัตกรรมของแบรนด์ และอิทธิพลทางวัฒนธรรม นี่คือข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับเทรนด์ที่กำหนดนิยามของชุดฮู้ดแวร์สตรีทแวร์สำหรับผู้ชายตั้งแต่ปี 2018

1 (1)

1. ทรงโอเวอร์ไซส์และหลวม

ตั้งแต่ปี 2018 เป็นต้นไป และเริ่มได้รับความนิยมต่อเนื่องไปจนถึงปี 2023 เทรนด์เสื้อฮู้ดโอเวอร์ไซส์ได้กลายเป็นเอกลักษณ์ของสตรีทแวร์ การเปลี่ยนแปลงนี้สอดคล้องกับเทรนด์ที่เน้นความหลวมสบายมากขึ้น เสื้อฮู้ดแบบไหล่ตก ชายเสื้อยาว และกางเกงหลวมๆ ตอบโจทย์ผู้ที่มองหาสไตล์สบายๆ แต่มีสไตล์ เสื้อฮู้ดโอเวอร์ไซส์ได้รับอิทธิพลจากแบรนด์ดังอย่าง Fear of God, Balenciaga และ Yeezy ทั้งยังใช้งานได้จริงและทันสมัย ​​ดึงดูดผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับความสบายโดยไม่ละทิ้งความทันสมัย

1 (2)

2. กราฟิกและโลโก้ที่โดดเด่น

สตรีทแวร์เชื่อมโยงอย่างลึกซึ้งกับการแสดงออกถึงตัวตน เห็นได้ชัดจากการเติบโตของงานออกแบบกราฟิกที่โดดเด่นและการจัดวางโลโก้ ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ชุดฮู้ดได้กลายเป็นผืนผ้าใบสำหรับการแสดงออกทางศิลปะงานพิมพ์ขนาดใหญ่ การออกแบบที่ได้รับแรงบันดาลใจจากกราฟิก และสโลแกนที่บอกเล่าเรื่องราวต่างๆ ได้รับความนิยมแบรนด์หรูและการร่วมมือกันมากมาย เช่น ระหว่าง Louis Vuitton กับ Supreme หรือ Nike กับ Off-White ต่างพาการออกแบบที่เน้นโลโก้ให้กลายเป็นกระแสหลัก ซึ่งทำให้กลายเป็นเทรนด์สำคัญ

1 (3)

3. โทนสีเอิร์ธโทนและจานสีกลางๆ

แม้ว่าสีสันและลวดลายที่สดใสจะยังคงเป็นสิ่งสำคัญ แต่ในช่วงห้าปีที่ผ่านมานอกจากนี้ยังพบว่าโทนสีเอิร์ธโทนและโทนสีกลางๆ ของชุดคลุมศีรษะได้รับความนิยมมากขึ้นเฉดสีอย่างสีเบจ สีเขียวมะกอก สีเทาอมเทา และสีพาสเทลอ่อนๆ กลายเป็นเทรนด์ที่ได้รับความนิยมเป็นพิเศษ เทรนด์สีโทนอ่อนนี้สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่สู่ความเรียบง่ายและแฟชั่นที่ยั่งยืน ดึงดูดผู้บริโภคที่มองหาเสื้อผ้าที่ใช้งานได้หลากหลายและเหนือกาลเวลา

1 (4)

4. องค์ประกอบทางเทคนิคและฟังก์ชัน

การผสมผสานรายละเอียดทางเทคนิคและการใช้งานอย่างลงตัวมีอิทธิพลอย่างมากต่อการออกแบบชุดคลุมศีรษะ ด้วยแรงบันดาลใจจากความนิยมที่เพิ่มขึ้นของเสื้อผ้าเทคโนโลยี แบรนด์ต่างๆ จึงได้นำคุณสมบัติต่างๆ มาใช้ เช่น กระเป๋าซิป เชือกผูกที่ปรับได้ และวัสดุกันน้ำ องค์ประกอบเหล่านี้ช่วยเสริมทั้งความสะดวกใช้งานและความสวยงาม ดึงดูดผู้บริโภคที่ต้องการเสื้อผ้าที่ใช้งานได้จริงและดูดี

1 (5)

5. ทางเลือกที่ยั่งยืนและมีจริยธรรม

ความยั่งยืนเป็นปัจจัยสำคัญในวิวัฒนาการของแฟชั่น รวมถึงเสื้อผ้าแนวสตรีทแวร์ ในช่วงห้าปีที่ผ่านมา วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น ผ้าฝ้ายออร์แกนิก โพลีเอสเตอร์รีไซเคิล และสีย้อมจากพืช ถูกนำมาใช้ในการผลิตชุดคลุมศีรษะเพิ่มมากขึ้น แบรนด์ต่างๆ เช่น Pangaia และ Patagonia เป็นผู้นำในการส่งเสริมความยั่งยืน โดยส่งเสริมให้แบรนด์อื่นๆ ปรับใช้แนวทางปฏิบัติที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่ต้องการทางเลือกที่คำนึงถึงจริยธรรม

6. ชุดสีเดียวและการประสานสี

เทรนด์ชุดฮู้ดสีเดียวกำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ด้วยรูปลักษณ์ที่ดูสะอาดตาและกลมกลืน เสื้อฮู้ดและกางเกงจ็อกเกอร์สีเดียวที่เข้าชุดกัน ซึ่งมักเป็นโทนสีอ่อนหรือสีพาสเทล ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในคอลเลกชั่นของทั้งแบรนด์ไฮสตรีทและแบรนด์หรู การแต่งกายที่เหมือนกันนี้ช่วยลดความยุ่งยากในการแต่งตัว และทำให้ดูมีสไตล์ที่ดึงดูดใจผู้บริโภคที่มองหาสไตล์แฟชั่นที่ดูเรียบง่ายแต่ดูดี

7. สตรีทแวร์พบกับความหรูหรา

ในช่วงห้าปีที่ผ่านมา เส้นแบ่งระหว่างสตรีทแวร์และความหรูหราเริ่มเลือนลางลง โดยชุดฮู้ดเป็นศูนย์กลางของการผสมผสานนี้ แบรนด์หรูอย่าง Dior, Gucci และ Prada ได้นำสุนทรียศาสตร์แบบสตรีทแวร์มาผสมผสานเข้ากับคอลเลกชั่นของพวกเขา นำเสนอชุดฮู้ดระดับไฮเอนด์ที่ผสมผสานวัสดุระดับพรีเมียมเข้ากับดีไซน์สตรีทแวร์สุดเท่ ความร่วมมือและการผสมผสานเหล่านี้ได้ยกระดับสถานะของชุดฮู้ดขึ้น ทำให้เป็นที่ต้องการของทั้งวงการสตรีทแวร์และแฟชั่นหรู

8. การรับรองจากผู้มีอิทธิพลและคนดัง

อิทธิพลของโซเชียลมีเดียและการรับรองจากเหล่าคนดังนั้นไม่อาจมองข้ามได้ บุคคลสำคัญอย่าง Travis Scott, Kanye West และ A$AP Rocky ได้สร้างความนิยมให้กับสไตล์และแบรนด์เฉพาะกลุ่ม ขณะที่แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอย่าง Instagram และ TikTok ได้เปลี่ยนชุดคลุมฮู้ดให้กลายเป็นไอเทมฮิตติดกระแส อินฟลูเอนเซอร์มักนำเสนอสไตล์การแต่งตัวที่เป็นเอกลักษณ์ สร้างแรงบันดาลใจให้ผู้ติดตามปรับเปลี่ยนลุคให้คล้ายคลึงกัน และผลักดันเทรนด์ใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง

9. การปรับแต่งและการทำให้เป็นส่วนตัว

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมามีความต้องการเพิ่มมากขึ้นชุดฮู้ดที่ปรับแต่งได้ แบรนด์ต่างๆ ได้นำเทรนด์นี้มาใช้โดยนำเสนอตัวเลือกต่างๆ เช่น การปักแบบเฉพาะบุคคลไม่ว่าจะเป็นแพทช์ หรือแม้แต่ชิ้นงานสั่งทำพิเศษ การปรับแต่งไม่เพียงแต่ช่วยเสริมความโดดเด่นของแต่ละชิ้นเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ผู้บริโภคเข้าถึงเสื้อผ้าของตัวเองได้มากขึ้นอีกด้วย

10. การฟื้นคืนอิทธิพลย้อนยุค

ในช่วงห้าปีที่ผ่านมาก็ได้เห็นการกลับมาของสุนทรียศาสตร์ย้อนยุคในชุดฮู้ดดีไซน์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากยุค 90 และต้นยุค 2000 โดดเด่นด้วยการใช้สีบล็อก โลโก้วินเทจ และกราฟิกย้อนยุค กลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง เทรนด์ที่ขับเคลื่อนด้วยความคิดถึงนี้ดึงดูดทั้งผู้บริโภครุ่นใหม่ที่เพิ่งค้นพบสไตล์เหล่านี้เป็นครั้งแรก และคนรุ่นเก่าที่มองหาความคุ้นเคยในการเลือกแฟชั่น

1 (6)

11. การอุทธรณ์ที่เป็นกลางทางเพศ

ในขณะที่แฟชั่นยังคงทำลายบรรทัดฐานทางเพศแบบเดิมๆ ชุดฮู้ดก็กลายเป็นไอเทมหลักในตู้เสื้อผ้าแบบยูนิเซ็กซ์ ปัจจุบันหลายแบรนด์ออกแบบเสื้อผ้าที่คำนึงถึงเพศสภาพอย่างเป็นกลาง เน้นย้ำถึงความครอบคลุมและความเป็นสากล เทรนด์นี้ได้รับความนิยมเป็นพิเศษในกลุ่มคนรุ่น Gen Z ซึ่งให้ความสำคัญกับความเป็นตัวของตัวเองและการยอมรับความแตกต่างในการเลือกเสื้อผ้า

บทสรุป

วิวัฒนาการของชุดฮู้ดสตรีทแวร์สำหรับผู้ชายในช่วงห้าปีที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในอุตสาหกรรมแฟชั่น ตั้งแต่ทรงโอเวอร์ไซส์และกราฟิกที่โดดเด่น ไปจนถึงแนวทางปฏิบัติที่ยั่งยืนและการร่วมมือกับแบรนด์หรูหรา ชุดฮู้ดได้ปรับตัวให้เข้ากับความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป พร้อมกับรักษารากฐานของสตรีทแวร์เอาไว้ เมื่อมองไปยังอนาคต เป็นที่แน่ชัดว่าเสื้อผ้าที่ใช้งานได้หลากหลายและมีสไตล์นี้จะพัฒนาต่อไปอย่างต่อเนื่อง ตอกย้ำสถานะอันแข็งแกร่งของแฟชั่นบุรุษ


เวลาโพสต์: 23 พ.ย. 2567